โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี


จำนวนผู้อ่าน : 4

โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

สนองพระราชดำริ

โดย องค์การบริหารส่วนตำบลแม่วิน

1.  หลักการและเหตุผล

 

          ฐานทรัพยากรท้องถิ่น มีความหมายถึง สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติแล้วสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนทั่งทางตรงและทางอ้อม ได้แก่ การประกอบอาชีพ รูปแบบการดำเนินชีวิต การสร้างค่านิยม และวัฒนธรรมในชุมชน จนเกิดเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนที่ชัดเจน

          ฐานทรัพยากรท้องถิ่นในแนวทางการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชการกุมารี เกิดขึ้นมาจากการพิจารณาเห็นความสัมพันธ์ของคนไทยที่มีต่อลักษณะของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในแต่ละพื้นที่ โดยการคิดหาทางนำทรัพยากรธรรมชาติเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์ หรือปรับวิถีชีวิตของคนเข้ากับทรัพยากรธรรมชาติเหล่านั้น จนกระทั่งเกิดการสะสมความรู้และประสบการณ์ในการจัดการกับสิ่งที่อยู่รอบๆตัวใสสร้างให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีวิต โดยไม่ทำลายฐานทรัพยากรเหล่านั้นให้หมดไปจากการถูกใช้งาน นอกจากนี้สิ่งประดิษฐ์ใดๆที่เกิดขึ้นมาจากความคิด การสร้างสรรค์ หรือประดิษฐ์สิ่งต่างๆ เพื่อพัฒนา และแก้ไขปัญหาจนเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชน ก็นับว่าเป็นฐานทรัพยากรท้องถิ่นด้วย

          ปัจจุบันปัญหาการเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะสัตว์ป่าและพรรณพืช มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงเองตามธรรมชาติ และเกิดจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การเกิดภัยธรรมชาติ การระเบิดของภูเขาไฟ การชะล้างพังทลายของดิน การบุกรุกการตัดไม้ทำลายป่า  รวมถึงการขาดความรู้ ความเข้าใจถึงคุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับจากทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับทุกพื้นที่ทั่วโลก ซึงในปัจจุบันมาตรการป้องกันจากนโยบายของภาครัฐยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม จึงควรมีการปลูกจิตสำนึกและส่งเสริมความตระหนักในเชิงการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

          ปัจจุบันการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ถือว่ามีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในอนาคตเป็นอย่างยิ่ง พันธุกรรมพืชถือเป็นทรัพยากรที่มีค่า และมีความสำคัญต่อการปรับปรุงพันธุ์พืชในอนาคต ความหลากหลายทางพันธุกรรมของทรัพยากรเหล่านี้อาจจะสูญหายไป เนื่องจากความไม่รู้ของมนุษย์ในการใช้ทรัพยากรเหล่านี้ การจำแนกและการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชจึงมีบทบาทสำคัญที่จะดำรงทรัพยากรนี้ให้ยั่งยืนและถูกต้องตามหลักวิชาการ แต่อย่างไรบางครั้งเราก็ไม่สามารถจำแนกพืชได้ถูกต้องและตลอดไป ดังนั้นการรู้จักใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาดให้เป็นประโยชน์ต่อทุกคนมากที่สุด และสามารถใช้ได้เป็นเวลายาวนานที่สุด โดยต้องให้สูญเสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์น้อยที่สุด และจะต้องกระจายการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรโดยทั่วถึงกันด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อมทางพันธุกรรมพืชที่สำคัญของประเทศที่จำเป็นยิ่ง เพื่อให้อยู่คู่กับเราตลอดไป

          สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งทรงพระราชดำริเป็นครั้งแรกในปี 2536 โดยส่วนหนึ่งของพระราชดำริบางประการเกี่ยวกับเกี่ยวกับการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช คือ "การสอนและอบรมให้เด็กมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์พืชพรรณ นั้น ควรใช้วิธีการปลูกฝังให้เด็กเห็นความงดงาม ความน่าสนใจ และเกิดความปีติที่จะทำการศึกษาและอนุรักษ์พืชพรรณต่อไป การใช้วิธีการสอนการอบรมที่ให้เกิดความรู้สึกว่าหากไม่อนุรักษ์แล้วเกิดผลเสีย อันตรายแก่ตนเอง จะทำให้เด็กเกิดความเครียด ซึ่งจะเป็นผลเสียแก่ประเทศในระยะยาว"

          ดังนั้น เพื่อดำเนินการตามพระราชดำริในการส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และทรัพยากรทางพันธุกรรมพืชที่สำคัญ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่วินได้เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงจัดทำโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขึ้น  เนื่องด้วยตำบลเป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติหลากหลาย จึงมีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมสนองพระราชดำริฯตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ

 

2.  วัตถุประสงค์

        1. เพื่อสนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในเรื่องการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช

        2. เพื่อให้เป็นแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์พืชท้องถิ่นและแหล่งสมุนไพรพื้นบ้าน

          3. เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และสร้างรายได้เสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรในชุมชน

          4. เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น

          5. เพื่อเป็นฐานทรัพยากรในการพึ่งพาตนเองสู่เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ

          6.  เพื่อสร้างจิตสำนึกโดยเน้นการมีส่วนร่วมของราษฎรในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นของตนเอง

3. กลุ่มเป้าหมาย

          หมู่บ้านทั้ง 19 หมู่บ้าน โรงเรียนและหน่วยงานในพื้นที่ตำบลแม่วิน

 

4. วิธีการดำเนินการ

          1.  ประชุมการมีส่วนร่วมของราษฎร วิสาหกิจชุมชน ละองค์กรชาวบ้านอื่นๆ เพื่อกำหนดขอบเขตและกฎกติกาและแนวทางในการดำเนินโครงการและคัดเลือกคณะกรรมการเพื่อรับผิดชอบและดำเนินโครงการ

2.  ดำเนินการสำรวจแนวเขตพื้นที่โครงการฯ เพื่อแสดงขอบเขตที่ชัดเจน

3.  ดำเนินการสำรวจฐานทรัพยากรท้องถิ่น นำโดยปราชญ์ชาวบ้านและคณะกรรมการโครงการ ออกพื้นที่สำรวจเก็บรวบรวมพันธุกรรมพืช และจัดทำป้ายแสดงชื่อพฤกษศาสตร์ คุณสมบัติ และคุณประโยชน์ของพันธุ์พืชแต่ละชนิด

          4.  ปลูกรักษาพันธุกรรมพืช และเป็นศูนย์ข้อมูลพันธุกรรมพืช

          5.  สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช โดยเน้นการมีส่วนร่วมของราษฎรในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นของตนเอง

 

5.  เป้าหมาย

          ดำเนินโครงการในพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

 

6.หน่วยงานผู้รับผิดชอบโครงการ

องค์การบริหารส่วนตำบลแม่วิน

 

7. ระยะเวลาดำเนินการ

          1 ตุลาคม 2559 - 30 กันยายน 2560

 

 

8.  พื้นที่ดำเนินการ

        องค์การบริหารส่วนตำบลแม่วิน ,หมู่บ้านทั้ง 19 หมู่บ้านของตำบลแม่วิน รวมถึง โรงเรียนและหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ ที่มีความพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการฯ

 

9. งบประมาณ

เบิกจ่ายจากข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายองค์การบริหารส่วนตำบลแม่วิน ประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2560

          โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีสนองพระราชดำริ โดย องค์การบริหารส่วนตำบลแม่วิน ตั้งไว้    100,000 บาท

โดยมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายปรากฏตามเอกสารแนบท้ายโครงการ

 

10. ผลที่คาดว่าจะได้รับ

          1. เป็นแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมพืชท้องถิ่น และแหล่งสมุนไพรพื้นบ้านของชุมชนและบุคคลภายนอก

2. พรรณไม้อื่นที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สามารถเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้

3. ความรุนแรงจากไฟป่าลดลง และลดปัญหาไฟป่าและมลพิษ

          4. ปริมาณคุณภาพและการไหลของน้ำเพิ่มขึ้น

5. ราษฎรมีรายได้เสริมจากการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ และเกิดความรู้สึกหวงแหนและร่วมมือกันปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน