ประเพณีปีใหม่ปกาเก่อญอ (บ้านทุ่งหลวง)
จำนวนผู้อ่าน : 11
หลังจาการดำนาต้นกล้าเติบโตมาชั่วระยะเวลาหนึ่งและมีพิธีเลี้ยงผีนาช่วงต้นเดือนสิงหาคม เพื่อให้ช่วยปกปักรักษาต้นกล้าให้เติบโตเป็นเมล็ดข้าวที่อวบอ้วนสมบูรณ์ ก็ถึงพิธีกรรมการมัดมือเพื่อเป็นการบูชาเทพยดาฟ้าดิน ให้ช่วยลงมาปกปักรักษาพืชพันธุ์ธัญญาหาร ข้าวกล้าในนา ให้ปราศจากอันตรายต่างๆ นอกจากนี้ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ทุกคน ทุกครอบครัวเหน็บเหนื่อยจากหน้าที่การงานในทุ่งนา และในช่วงนี้ก็พอมีเวลาว่างจะได้มาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกันในเรื่องการทำมาหากิน ความทุกข์ความสุข ของคนที่เคยเป็นสมาชิกในครัวเรือนเดียวกันแต่ต้องมาแยกย้ายกันอยู่ในต่างหมู่บ้าน และเป็นการดำรงไว้ซึ่งความรักสามัคคีของสถาบันครอบครัว เป็นคุณธรรมซึ่งนับวันจะหาได้ยากยิ่งในปัจจุบันนอกจากนี้เป็นการสื่อให้บุคคลภายนอกที่เข้ามาร่วมพิธีให้รู้ว่า ปกาเกอะญอเป็นชนเผ่าที่มีประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงามเป็นของตนเองสืบต่อมาช้านาน
ขนมที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมการมัดมือมี 2 ชนิด คือขนม เม ตอ กับ ขนมเม โต พิ ส่วนประกอบของขนม เม ตอ มีข้าวเหนียวผสม เมล็ด ถั่ว ที่ ปกาเกอะญอ เรียกว่า เซ เบ คลี ห่อด้วยใบ แคะ ละ ซึ่งมีลักษณะยาวรี ต้นคล้ายต้นอ้อย และนำขนมไปต้มให้สุก ส่วนขนมเม โต พิ จะนำข้าเหนียวที่แช่ไว้นำมาผสมกับเมล็ดงาและตำให้ละเอียดนำใส่ในถาดเป็นแผ่นบาง และมีการเตรียม เนื้อหมู่ เป็ด ไก่ เพื่อเป็นการเลี้ยงฉลอง กับญาติบ้านไกลและแขกผู้มาเยือนนอกจากนี้ยังมี เสื้อผ้า ผ้าห่ม ผ้าโพกหัวและเครื่องแต่งกาย เมื่อเตรียมอุปกรต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นำจะแบ่งเป็นส่วนๆที่จะไปประกอบพิธีรุ่งเช้าก็จะนำไปเก็บไว้ในที่อันควร และส่วนที่เหลือก็นำไปรับประทานหรือเลี้ยงแขกที่มาได้ ในการเตรียมข้าวของเพื่อถวายแก่เทพยาดาฟ้าดิน นำข้าวของเหล่านั้นใส่ในตะกร้ารวมทั้งเหล้า 1ขวด เพื่อเตรียมไว้เพื่อถวายในเช้ามืดของอีกวัน พลบค่ำหลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้วทุกคนจะไปพร้อมกันที่บ้านของฮี่โข่ เพื่อร่วมพิธีดื่มหัวเหล้า เพื่อเป็นการบูชาเทพยดาฟ้าดินอีกครั้งหนึ่ง
พิธีมัดมือนอกจากเป็นการปฏิบัติตามประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามแล้ว ยังเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมตามวิถีชีวิต เป็นการแสดงออกถึงคุณธรรมจริยธรรมที่งดงาม มีความลุ่มลึกด้านจิตวิญญาณ โยงสายใยสู่ ความรักความผูกพันธ์สามัคคีของชนเผ่า ในท่ามกลางกระแสความเจริญทางวัตถุ วิถีชีวิตอันงดงามของชนเผ่าปกาเกอญอเช่นนี้ จะสามารถดำรงอยู่อีกนานสักเท่าไร เป็นสิ่งที่คนปกาเกอญอเองต้องช่วยกันค้นหาคำตอบ